มีดประเภทไหนบ้าง ที่คุณควรมีไว้ติดครัว (สำหรับมีดพื้นฐาน)

หากจะเลือกมีดทำครัว ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน เพื่อลดการเกิดอันตรายจากการใช้มีดผิดประเภท และควรเลือกขนาด และน้ำหนักของมีดให้เหมาะกับมือ ซึ่งมีดก็มีหลากหลายประเภทตามการใช้งาน เช่น มีดหั่นผัก มีดแล่เนื้อ มีดสำหรับสับ แม้กระทั้งมีดปอกผลไม้  แล้วมีดแบบไหนที่คุณควรมีไว้ติดครัว ดูร่า คิมเช่น จึงอยากแนะนำมีดพื้นฐานที่คุณควรมีไว้ติดครัว สำหรับทำการประกอบอาหาร จะมีมีดประเภทไหนบ้าง มาดูกัน...

มีดที่สามารถใช้งานได้หลากหลายตามชื่อเรียก ไม่ว่าจะเป็นการหั่น แล่ ซอย สับ รวมถึงหั่นผัก และปอกเปลือกผลไม้ ขนาดของมีดมีความยาวประมาณ 13 เซนติเมตร  รูปทรงจะคล้ายมีดเชฟ แต่ขนาดเล็กกว่า  และน้ำหนักที่พอดีจึงทำงานได้สะดวก เหมาะมือ ไม่เทอะทะจนเกินไป  

มีดปอกจะมีขนาดบางและเล็ก มีความยาวมาตรฐานอยู่ที่ 9 - 11 เซนติเมตร น้ำหนักเบา สามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัว และรวดเร็ว จึงเหมาะกับงานที่เน้นความละเอียด อย่างการปอกเปลือกผัก ผลไม้ หรืออาจใช้ตัดผักหรือหั่นเนื้อบางประเภทให้เป็นชิ้นพอดีคำได้เหมือนกัน

 หรือที่เรียกกันว่า ‘อีโต้’ มีรูปทรงคล้ายมีดปังตอ แต่ขนาดเล็กกว่าใบมีดเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีน้ำหนักที่หนัก เพื่อให้มีแรงส่งในการสับ เช่น กระดูก ข้อต่อ เอ็น หรืออาหารแช่แข็ง เป็นต้น ขนาดของมีดสับที่เหมาะกับการใช้ทำอาหารเองที่บ้าน จึงควรอยู่ที่ 15 – 17 เซนติเมตร

มีดเชฟ คือมีดประจำตัวของเชฟ ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย  ลักษณะการใช้งานก็จะคล้ายกับมีดอเนกประสงค์ ซึ่งจะใช้ในการหั่น บั้ง หรือซอย  ส่วนใหญ่จะใช้ในขั้นตอนการเตรียมส่วนผสม มีลักษณะเป็นมีดสเตนเลส ขนาดความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร

มีดที่ใช้งานเฉพาะทาง ใช้สำหรับหั่นก้อนขนมปัง หรือตัดแบ่งเค้กโดยเฉพาะ ความยาวมาตรฐานอยู่ที่ 15 – 25 เซนติเมตร โดยใบมีดจะมีลักษณะเป็นรอยหยักเหมือนฟันเลื่อย จึงทำให้สามารถหั่นของที่มีความแข็งด้านนอก แต่เนื้อนุ่มด้านในอย่างขนมปัง  ช่วยให้หั่นก้อนขนมปังออกมาเป็นแผ่นได้อย่างสวยงาม เนื้อขนมปังไม่ฉีกขาด และเรียบเนียน